สินค้าที่เลือกมีหลายสเปค/สี/ราคา โปรดเลือกจากรายการด้านล่างแล้วคลิกปุ่ม "ใส่ตะกร้าสินค้า"

Basic การถ่ายภาพ

ชดเชยแสงเมื่อไร การวัดแสงคืออะไร ทำไปทำไม

การชดเชยแสง พูดแบบนี้ มือใหม่คงจะ... ว๊า ไม่อยากรู้อ่ะ ยากจัง ไม่เอาดีกว่า อิอิ (อันนี้เป็นตัวเองเมื่อก่อน) การชดเชยแสง ฟังแล้วมันอาจจะดูงงๆ ยากไปมั้ย แต่พอเราถ่ายรูปไปเรื่อยๆ นะ การที่เราจะเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมน่ะ มันไม่ได้ยากและงง อย่างที่ชื่อมันเป็นหรอกค่ะ เพราะพอเราถ่ายรูปมากๆ เข้า เราจะเจอปัญหานั้น นี้ โน้น และปัญหานึงที่เก้าเชื่อว่า ทุกคนต้องเจอแน่นอนคือ ทำไมถ่ายของสีดำแล้วมันไม่ดำจริง ทำไมถ่ายของสีขาว แล้วมันเทาๆ มอ ดูโทรมกว่าที่ตาเราเห็น มันไม่ขาวจริงๆ นะ





ก่อนจะไปไกลกว่านี้ คงต้องเข้าใจการทำงานของกล้องก่อนค่ะ.... อย่าเพิ่งค่ะ ไม่ยากๆ ลองดูก่อนนะ :D

โดยปกติ กล้องน่ะ มันจะ Convert สีให้กลายเป็นขาวดำ แล้วปล่อยให้แสงเข้ามาในภาพ ในระดับ เทา 18% หรือที่เค้าเรียกกันว่าเทากลาง



แสงระดับเทา 18% หรือระดับเทากลาง เป็นระดับที่กล้องมองว่าพอดี สำหรับภาพๆ หนึ่ง



เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น มาลองดูภาพเปรียบเทียบก่อนดีกว่าค่ะ เอาง่ายๆ ก่อนเลยนะ กระดาษขาว กระดาษดำเลยชัดเจนที่สุด นี่คือภาพที่เก้าไม่ได้ชดเชยแสง สังเกตว่า มันจะเทาคล้ายๆ กันเลยนะว่ามะ.... เห็นแบบนี้ ลองนึกดูนะ ถ้าเกิดว่า เราต้องถ่ายรูปของดำ ของขาว แล้วภาพมันออกมาเป็นแบนนี้ ไม่ Work เนอะ เผลอๆ ทำให้คนเข้าใจผิดได้ด้วยซ้ำ

แต่การชดเชยแสงช่วยได้ค่ะ...



อ่ะ มาดูก่อนว่า เราจะชดเชยแสง เราต้องดูต้องไหน ชุดตัวเลขตรงนี้ค่ะ
0 คือ ไม่ชดเชยแสง
1 2 คือ ชดเชยแสงทางบวก (Over)
-1 -2 คือ ชดเชยแสงทางลบ (Under)
ที่เห็นจุดๆ น่ะ เป็นการซอยย่อย คือมันเลือกระดับการชดเชยได้



ทีนี้ เมื่อไรจะชดเชยทางบวก หรือ เมื่อไรจะชดเชยทางลบ....
ถ้าถ่ายของดำ ชดเชยทางลบ (เพื่อให้ได้สีดำจริง)
ถ้าถ่ายของขาว ชดเชยทางบวก (เพื่อให้ได้สีขาวจริง)

คราวนี้ เก้าจะชดเชยแสงเปรียบเทียบให้เห็นนะคะ ขอเปลี่ยนเป็นผ้าลายจุดนะ น่ารักดี :D ภาพผ้าลายจุดนี้จะเห็นว่า ถ้าเก้าไม่ชดเชยแสงทางบวก สีขาวมันจะมอๆ ดูไม่น่ารัก น่าใช้เลย (แอบบอก ผ้าเนี้ย นุ่มมากๆค่ะ ; P)



มาดูของดำกันบ้าง ยกตัวอย่างกระเป๋าใบนี้ สีดำทั้งใบ แต่พอไม่ชดเชยแสง มันดำแต่มีสีขาวปนๆ แต่พอค่อยๆ ชดเชยแสงทางลบ มันดูดำสนิทมากขึ้น



เแต่จริงๆ แล้วในความเป็นจริงๆ เราคงไม่ได้ถ่ายอะไรดำล้วน ขาวล้วนขนาดนั้น เอาเป็นว่าแบบนี้แล้วกันค่ะ
ถ้าภาพในเฟรมของเรา มีปริมาณสีดำมาก ให้ชดเชยทางลบ
ถ้าภาพในเฟรมของเรา มีปริมาณีสขาวมาก ให้ชดเชยทางบวก

การนำไปใช้ ก็ไม่ยากค่ะ ดูการชดเชยแสงทางลบก่อน.....

เก้าจะขอยกตัวอย่างที่เก้าไปถ่ายรายการ G Square ที่ห้องอัดของรายการที่เป็นห้องสีดำ พื้นดำ ผนังดำ ถ่ายภาพนี้ไม่ชดเชยแสง จะเห็นว่าผนังเป็นสีดำที่ไม่ดำจริงนะว่ามะ มันมีขาวๆ แป้งๆ ปน



แต่พอชดเชยแสงทางลบ มันก็กลายเป็นดำสนิท และส่วนที่มีไฟสว่าง ก็ไม่ได้ Out อย่างภาพด้านบน



อีกหนึ่งตัวอย่างคือ ห้องอาหารไบยุน ในส่วนนี้ พูดได้ว่ามีปริมาณสีดำ (สีเข้ม) อยู่มากกว่าสีขาว (สีอ่อนๆ) ถ้าไม่ชดเชยแสง มันดูไม่ค่อยจะเข้มสนิทนัก (และได้ของแถมมาอีกคือ Noise กระจายค่ะ เดี๋ยวค่อยอธิบายแล้วกันนะคะว่าทำไม Noise กระจายขนาดนี้)



นี่คือชดเชยแสงทางลบเรียบร้อยค่ะ เก้าใช้วิธีเลือกไปทีละ Step ว่าแบบไหนที่เก้ารู้สึกว่ามันสื่อตรงกับสีของไม้ที่เราเห็นที่สุด



อีกร้านแ้ล้วกันนะคะ สำหรับร้านยามากิชิ การตกแต่งเค้าจะเน้นสีเข้มเป็นหลักค่ะ น้ำตาลเข้มๆ เลยแต่ตอนถ่ายภาพแบบไม่ชดเชยแสง มันออกมาขาวเชียว ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ บรรยากาศร้านเค้าเจ๋งกว่านี้



นี่ค่ะ หลังจากที่ชดเชยแสงทางลบแล้ว ก็ได้บรรยากาศแท้ๆ ของเค้าเลยล่ะ จะเห็นว่า เฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลเข้ม หรือสีไม้โอ๊ค มันเข้มจริงๆ ค่ะ



คราวนี้ เรามาดูชดเชยแสงทางบวกกันบ้าง

ร้าน ไล บรา รี่ การตกแต่งโดยรวมของเค้า จะเป็นแนวสีขาวสะอาด บอกได้ว่าเน้นสีขาวเป็นหลัก แบบนี้ เราต้องชดเชยแสงทางบวก ภาพนี้ไม่ได้ชดเชยแสง ดูสีขาวตามผนังสิคะ มันออกเทาๆ จริงๆ ความรู้สึกเก้า ร้านเค้ามันขาวกว่านี้อ่ะ



เก้าเลยชดเชยแสงทางบวกค่ะ และได้ภาพออกมาแบบสีขาว เป็นขาวจริงๆ มันก็เลยทำให้บรรยากาศดูใช่ที่สุดค่ะ



ภาพนี้ ปริมาณสีขาวเยอะ ต้องชดเชยแสงทางไหนคะ .....

ทางบวก ถูกต้องค่ะ ภาพนี้จะเห็นว่าสีขาว ไม่ขาวจริง



ภาพนี้ ชดเชยแสงทางบวกแล้ว ได้สีขาวจริง และเป็นบรรยากาศจริงของร้านเค้าด้วยค่ะ



มาลองดูที่ร้าน Melt me กันบ้าง ภาพนี้ สีขาวเยอะกว่า ถ่ายมาไม่ได้ชดเชยแสงทางบวก เราต้องชดเชยแสงทางบวก



พอชดเชยแสงแล้ว ภาพที่ได้ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ



จากด้านบน เก้าติดเอาไว้ว่า ทำไม การไม่ชดเชยแสงถ่ายภาพของดำ หรือภาพที่มีสีดำเป็นส่วนใหญ่ ได้ของแถมเป็น Noise กระจายขนาดนั้น คืออย่างงี้ค่ะ

การที่เราถ่ายของดำ กล้องมันจะดูดแสงให้ได้มากเพื่อให้ได้ระดับแสงเทากลาง (ที่มันมองว่า เป็นระดับแสงที่กำลังดี) จากบทเรียนเรื่อง Speed Shutter ถ้าต้องการให้แสงเข้ามากก็ต้องเปิด Speed Shutter นานขึ้น เพื่อให้ได้แสงระดับเทากลาง กล้องมันก็เลยเปิด Speed Shutter นาน บางทีมันนานไปจนเราถือไม่ได้ มื่อจะสั่นและำภาพจะเบลอ เพื่อไม่ให้ภาพเบลอ ก็เลยดัน ISO เพื่อให้ได้ Speed Shutter ที่เราถือได้ การดัน ISO มาก Noise ก็กระจายอยู่แล้วล่ะค่ะ ดังนั้น พอเรากดชดเชยแสงทางลบ เราจะได้ Speed Shutter กลับคืนมาระดับนึง เพราะว่า เราไม่ได้ต้องการให้กล้องเปิด Speed Shutter นานเกินไป ก็เลยทำให้เรามีความเสี่ยงที่จะต้องดัน ISO น้อยลงค่ะ

แต่ในทางกลับกัน การถ่ายของขาว กล้องจะดูดแสงให้ได้พอแค่ระดับเทากลาง (ที่มันมองว่า เป็นระดับแสงที่กำลังดี) ดังนั้น มันจึงปล่อยให้แสงเข้าน้อย Speed Shutter ก็จะเร็วค่ะ ดังนั้น พอเรากดชดเชยแสงทางบวก เราจะได้ Speed Shutter ที่ช้าลง เพราะว่า เราต้องการให้แสงเข้ามากเพื่อให้ได้ระดับแสงที่ทำให้ภาพเป็นสีขาวจริงได้ ดังนั้นการชดเชยแสงทางบวก จึงทำให้มีความเสี่ยงที่เราต้องดัน ISO ก็อาจทำให้ภาพ มี Noise (หรือถ้าไม่อยากได้ Noise ก็ต้องใช้ขาตั้งกล้องกันละคราวนี้)

ที่สำคัญ การชดชยแสง อย่าเอาไปสับสนกับความมืด-สว่างของแสงนะ การชดเชยแสง เราให้ความสนใจกับน้ำหนักของสี เช่น สีดำสีขาว สีอ่อนสีเข้ม ถ้าไปเจอร้านที่กำแพงทาสีขาวเยอะๆ แต่เปิดไฟสลัวๆ ก็ต้องชดเชยแสงทางบวกอยู่ดี หรือไปเจอร้านที่ทากำแพงสีดำเยอะๆ แต่เปิดไฟสว่างๆ ก็ต้องชดเชยแสงทางลบอยู่ดี คิดง่ายๆ ว่าสนใจที่สี ไม่ใช่แสง

เก้ามีสูตรจำ่ง่ายๆ ให้ท่องกันสั้นๆ จำขึ้นใจได้ค่ะ
ถ่ายของดำ = ชดเชยแสงทางลบ เค้าเรียกว่า ถ่าย Under
ถ่ายของขาว = ชดเชยแสงทางบวก เค้าเรียกว่า ถ่าย Over

ดำ der
ขาว ver

ดำ เด้อ
ขาว เว่อ

ดีมะ จำง่ายเน๊าะ
สินค้าแนะนำ
x

ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในตะกร้า