สินค้าที่เลือกมีหลายสเปค/สี/ราคา โปรดเลือกจากรายการด้านล่างแล้วคลิกปุ่ม "ใส่ตะกร้าสินค้า"

รีวิวท่องเที่ยว

ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 8

ติดตามทริป Day อื่นๆ ได้ที่ Link นี้ตามเลยจ้า
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 1
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 2
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 3
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 4
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 5
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 6
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 7


ทริปนี้ไปเมื่อวันที่ 20 - 30 พ.ย. 60 เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี คราวนี้ อยากพาแม่ไปดูภูเขาไฟฟูจิสักครั้ง เพราะแม่รีเควสมา ก็เลยเกิดทริปนี้ขึ้น เข้าไปดูคลิปกันได้ที่นี่นะจ้ะ https://youtu.be/JzmWthnGEdw

วันที่ 8 ของทริป แพลนวันนี้เราจะไปฮาโกเน่ เพื่อไปชมฟูจิซังอีกมุมนึง แต่เส้นทางที่จะไปถึงต้องนั่งทั้งรถไฟ รถบัส กระเช้า เรือ เลยเป็นวันที่สนุกสนานกับการเดินทางด้วยยานพาหนะ ค่าใช้จ่ายทั้งทริป คนละ 83,229.62 บาท ** ค่าใช้จ่ายนี้ ไม่รวม pocket money นะจ้ะ **
แบ่งเป็นรายละเอียดตามนี้
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน JAL (สุวรรณภูมิ-นาริตะ) คนละ 19,090 บาท
2. ค่าที่พัก ทั้งหมด 10 คืน
- Hotel Mystays Nishi Shinjuku 20 - 21/11/17 ( 1คืน ) คนละ 1,540.02
- Kawaguchiko Hotel 21 - 23/11/17 ( 2 คืน ) คนละ 2,135.31
- APA Hotel Keisei Ueno-Ekimae 23 - 30/11/17 ( 7คืน ) คนละ 2,113.75
3. ค่า pocket wifi ของ iwifi.jp ทั้งหมด 11 วัน ราคา 2,118.60 ตกคนละ 529.65 บาท
4. ประกันเดินทาง 4 คน รวม 2,008.00 ตกคนละ 502 บาท
5. จองรถขับใน Kawaguchiko (Toyota Rent a Car) 2 วัน รวม 6,340 บาท
6. Romance car ไป-กลับ 2,090 บาท ตกคนละ 522 บาท
7. ตั๋วเข้า Disneyland ตกคนละ 2,150 บาท
8. ตั๋ว Keisei Skyliner Ueno - Narita Terminal 2 ตกคนละ 645 บาท
9. ค่ากิน+เดินทาง+ค่าเข้าสถานที่ระหว่างทริป 11 วัน ตกคนละ 3,420 บาท / 1 วัน



เช้านี้แม่ดูสดชื่นเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันที่จะได้ไปดูฟูจิซังอีกมุมนึง



ช่วงต้นทริป เราได้ไปคาวาแล้ว วันนี้จะพาไปฮาโกเนกันบ้าง แต่เป็นทริปแบบไปเช้า - เย็นกลับ



เราจะได้เห็นวิวฟูจิซังแบบไหนก็ไปดูพร้อมๆกัน



เราจะได้เห็นวิวฟูจิซังแบบไหนก็ไปดูพร้อมๆกัน



เพราะในช่วงที่ทำเว็บไอเลิฟใหม่ๆ พี่ฉิมก็ไปหาข้อมูลมาลงเว็บและได้อ่านเรื่องการไปเที่ยวโอวาคุดานิและกินไข่ดำ เลยอยากลองไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง



เริ่มต้นจาก เราจะไปซื้อ Hakone Free Pass ก่อนที่ สถานีชินจูกุ โดยไปซื้อที่ odakyu Sightseeing Service Center



ไปเที่ยวฮาโกเน่ ให้ประหยัดเงินก็แนะนำซื้อ Hakone Free Pass ซื้อได้ที่ เคาท์เตอร์บริการนักท่องเที่ยวของ Odakyu หรือจะกดจากตู้ขายตั๋วก็ได้ อยู่ที่ชั้น 1 สถานี Odakyu Shinjuku ทางออก West Exit



มันคือ Pass แบบเหมาจ่ายการเดินทางทุกอย่าง ตั้งแต่โตเกียวและภายในฮาโกเน่ มีแบบ 2 วันกะ 3 วัน เราจะซื้อแบบ 2 วัน เพราะถึงเป็นแบบ 2 วันก็ประหยัดกว่าไม่ซื้ออยู่ดี



สิ่งที่จะได้รับใน Hakone Free Pass คือ
1. เดินทางด้วย Local Train หรือ Express จากสถานี Shinjuku, Machida หรือ Odawara ไปยัง Hakone แบบไป-กลับ แต่ไม่รวม Romance Car นะ จะเริ่มสถานีไหนก็ได้ ราคาจะลดหลั่นกันไปตามระยะทาง ส่วนถ้าจะนั่ง Romance car แบบเราก็ต้องเพิ่มตังอีกคนละ 890 เยนต่อเที่ยว ซึ่งอันนี้เราจองมาจากในเว็บแล้วทั้ง ขาไป-ขากลับ รวมก็คนละ 1,780 เยน



2. ใช้ขึ้นยานพาหนะทุกอย่างใน Hakoneได้ ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว เช่น เรือโจรสลัด, Ropeway, Cable Car, Tozan Bus, Tozan Train ซึ่งจะถูกกว่าซื้อเป็นเที่ยวๆ



3. เป็นส่วนลดร้านค้า สถานที่เที่ยว โรงแรม หรือรับของแถมตามร้านที่ร่วมรายการ โดยให้สังเกตสัญลักษณ์รูปนกปากแหลม ถ้ามีแบบนี้ก็ใช้ได้



สำหรับเราเที่ยวนี้เราจะพานั่ง Romance Car ทั้งขาไปขากลับเลย เวลารอรถก็มาดูที่ป้ายตรงนี้ รอตรง VSE



เป็นรถไฟขบวนพิเศษ ที่นั่งกว้างสบาย เห็นวิวชัดเพราะกระจกออกแบบมาบานใหญ่พิเศษเพื่อจะได้เห็นวิวได้ทั่วๆ



ใช้เวลาเดินทางเร็วกว่า และวิ่งตรงถึงสถานี Hakone – Yumoto โดยใช้เวลาแค่ 85 นาที



Romance car มีอยู่หลาย type แต่ที่เราเลือกนั่ง มันคือรุ่น VSE Model 50000 เป็นรถขวนสีขาวมีเส้นสีส้มบางๆคาด และนักท่องเที่ยวนิยมนั่งกัน ถ้าเวลาจองในเว็บอะก็ดูว่าเราจะได้นั่งขบวนอะไรด้วยนะ



เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ



ที่เรานั่งขาไป จะอยู่ที่ตู้เบอร์ 4 ตู้เสบียงกะห้องน้ำอยู่เบอร์ 3



ที่นั่งสามารถหมุนเข้าหากันได้ด้วยนะ เผื่อมากะกลุ่มเพื่อน อยากเม้าส์มอยอะไรก็หมุนหากันได้เลย



ความพิเศษของรุ่นนี้ คือ จะมีที่ตู้หน้าสุด ที่ที่นั่งแถวหน้าที่เห็นวิวแบบ 180 องศา เค้าจะเรียกว่า Observation deck seat ไม่มีอะไรมาบัง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็แย่งจะนั่งตรงนี้กัน



สำหรับที่นั่งธรรมดาใน Romance Car บานหน้าต่างก็ใหญ่กว่ารถไฟทั่วไป และเค้าจะออกแบบที่นั่งให้เอียงหันไปด้านข้างหน้าต่างประมาณ 5 องศา ทำให้เห็นวิวได้ดีขึ้น



นั่งไปสักพักเค้าก็จะเข็นรถเสบียงมา แถมมีเมนูให้เราดูด้วยนะ



มันเป็นสิ่งที่เราอยากทำมานานแล้ว คือการนั่งรถไฟและกินข้าวกล่องรถไฟไปด้วย



มันเป็นสิ่งที่เราอยากทำมานานแล้ว คือการนั่งรถไฟและกินข้าวกล่องรถไฟไปด้วย



เราอยากให้พี่บอมบ์สั่งกาแฟ เพราะเค้าโฆษณาว่ากาแฟเป็นสูตรพิเศษของ Romance car พี่บอมบ์ก็ดูจะชอบใจเพราะมันหอมดี



กินเสร็จก็นอนพักผ่อน



การนั่ง Romance car ของเรา มันเหมือนกับได้เที่ยวในระหว่างการเดินทางไปด้วยแล้ว



ตรงนี้คือตู้เสบียงเบอร์ 3 ก็ไม่มีอะไรมาก เค้าจะมีโต๊ะให้เรายืนกินได้ พร้อมกะดูวิวไปด้วย



ตรงตู้เสบียง กระจกจะใหญ่และไม่มีที่นั่งมาขวางทำให้เราดูวิวได้เต็มตา



ฟูจิซังก็ตามมาทักทายเราอยู่เป็นระยะๆ



วิ่งไปก็ตามมาส่งกันเรื่อยๆ



และแล้วเราก็มาถึงสถานี Hakone-Yumoto



คนเยอะมากกกกก ขนาดวันนี้เป็นวันธรรมดา



เราต้องมาเปลี่ยนไปขึ้น รถไฟสาย Tozan Line ขึ้นเขาไปลง สถานี Gora



ระหว่างทางเราจะผ่านใบไม้แดงสวยๆ เพราะเส้นทางจะวิ่งเลาะภูเขาขึ้นไปเรื่อยๆ



ถึงสถานี Gora ละ



เรามายืนต่อแถวเพื่อมาขึ้น Cable Car



เรามายืนต่อแถวเพื่อมาขึ้น Cable Car



จากตรงนี้เราต้องไปต่อ Hakone Tozan Cable Car ใช้เวลา 10 นาที



จากตรงนี้เราต้องไปต่อ Hakone Tozan Cable Car ใช้เวลา 10 นาที



มาถึงสถานี Sounzan (โซอุนซัง) แล้ว



จากนั้นเราจะไปขึ้น Hakone Rope Way เพื่อไปยังสถานี Owakudani



จากนั้นเราจะไปขึ้น Hakone Rope Way เพื่อไปยังสถานี Owakudani



เพราะ Rope Way มันจะเลื่อนผ่านหุบเขาที่มีควันพุ่งออกมา



มันเป็นวิวที่แปลกตาที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน



หุบเขาโอวาคุดานิ หรืออีกชื่อคือ “หุบเขานรก” เพราะชื่อเดิมของโอวาคุดานิ คือ Ochigoku แปลว่าหุบเขานรกน่ะเอง



หุบเขานี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อ 3000 ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ภูเขาไฟนี้ก็ยังไม่ดับ



ใต้พื้นผิวก็ยังมีความร้อนอยู่จึงทำให้น้ำที่อยู่ข้างใต้ระเหยกลายเป็นไอน้ำออกมาข้างบนตลอดและพื้นที่นี้มีแร่กำมะถันอยู่มาก ทำให้ไอน้ำที่ออกมามีกลิ่นกำมะถันปนอยู่



เรามาถึงสถานี โอวาคุดานิ เรียบร้อย ที่นี่มีห้องน้ำและของกินสะดวกมากมาย



ถึงจะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติกลางภูเขา แต่ญี่ปุ่นเค้าทำไว้ดีมาก สะอาดสะอ้าน



ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนก็มีข่าวภูเขาไฟประทุขึ้นมาเหมือนกัน ทางญี่ปุ่นก็มีการระวังภัยอยู่ตลอด



ถ่ายกับป้ายซะหน่อย เรามาถึงแล้ววว



กิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ที่นี่ คือ การมาทานไข่ดำ



ทำไมไข่จึงดำนะหรือซาร่า เพราะว่ามันเป็นไข่ที่ต้มจากน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีแร่กำมะถันอยู่ กำมะถันจะทำปฏิกิริยากับหินปูนที่เปลือกไข่ เลยทำให้ไข่กลายเป็นสีดำ แต่พอแกะออกมาซาร่าจะเห็นว่าเนื้อมันก็ขาวอยู่อะนะ ดำแค่เปลือก



แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เค้าจะขายไข่



เราเลยมาหาอะไรรองท้องก่อนที่จุดขายอาหาร



อาหารมันไม่ได้อร่อยมากนะ พอทานให้มันอิ่มท้องได้



จากตรงที่เรากินข้าวกัน จะมีลานจอดรถและได้ชมวิวฟูจิซังไปด้วย



ตอนแรกนึกว่าต้องไปต้มไข่เอง ไม่ใช่นะ เค้าให้เราซื้อที่เค้าต้มเสร็จแล้ว ซองละ 500 เยน มี 5 ฟอง



ถ้าไปต้มเอง อาจจะมีลื่นล้มคว่ำตกบ่อน้ำร้อนได้



แกะไข่ๆ จะเห็นแว่าแค่เปลือกเท่านั้นแหละที่ดำ เนื้อในยังขาวปกติ



จากตำนาน เค้าบอกว่ากิน 1 ฟองจะอายุยืนไป 7 ปี ตำนานจะเล่าไว้ในคลิปไปลองฟังกันได้



จากตำนาน เค้าบอกว่ากิน 1 ฟองจะอายุยืนไป 7 ปี ตำนานจะเล่าไว้ในคลิปไปลองฟังกันได้



ขึ้นมาถึงบนนี้ ก็จะเป็นจุดที่เรามาชมวิวฟูจิซังได้ด้วยนะ



ทริปนี้ได้เห็นฟูจิซังหลายรอบมาก รู้สึกดีใจ



แม่จะฟินที่สุดหล่ะ



ข้างบนก็จะมีศาลเจ้าด้วย



ใกล้ได้เวลากลับ เราก็ต้องทำพิธีกันสักเล็กน้อย



นั่นคือการซื้อของฝากจากโอวาคุดานิ นั่นเองงงง



ตามแผน เราต้องกลับโดยกระเช้าไปลงท่าเรือ Togendai แต่วันนั้นดันเกิดอีเว้นท์อีกหล่ะ



เกิดการประทุของภูเขา ทำให้ควันออกมากกว่าปกติ กระเช้าเลยปิดทำการ ทำให้เราอดนั่งเรือชมวิวเลย



ต้องเปลี่ยนมาเป็นนั่งรถบัสกลับแทน แต่นี่ก็ถือว่าโชคดีนะ ที่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์อะไรที่น่ากลัวกว่านี้



พี่บอมบ์อ้อนแม่อีกละ



หลังจากที่เรากลับมาถึงสถานี Hakone-Yumoto เราจะรอขึ้น Romance Car รอบที่จองไว้ เห็นว่าเหลือเวลาอีกนิดหน่อยเลยมาหาโซบะกินแถวๆสถานี แต่ปรากฎคนเยอะมาก เลยตัดใจเดินกลับ มันคือร้านนี้ ใครมีโอกาสลองไปลองชิมดู Hatsuhana Soba Honten https://goo.gl/maps/wCEFFVJfaXG2



กลับมาหน้าจ๋อยๆ ไม่ได้กินโซบะ แต่เราก็ยังไม่หมดหวัง



แต๊นนนน ซื้อข้าวกล่องหน้าสถานีมากินซะเลย



รถมาแล้ว เป็น Romance Car VSE เหมือนเดิม



แต่คราวนี้พิเศษคือจองตู้หน้าสุด เย้



กัปตันกำลังไต่ขึ้นไปบนห้องประจำการ



วิวด้านหน้าสุด มีกระจกรอบ 180 องศาเลย แต่เราจองได้แค่ขากลับ มันไม่มีใครเค้าจองกันเพราะรอบดึกมันก็ไม่เห็นวิวอะไรหรอก แต่ก็แค่อยากได้ฟีลนั่งตู้ 1



รถเสบียงมาแล้ววว



คราวนี้พี่ฉิมซื้อข้าวกล่อง Romance Car มาชิมบ้าง



ถือว่าใช้ได้เลยนะรสชาติดี



แต่ข้าวกล่องหน้าสถานีนี่มันไม่ค่อยอร่อยเลยนะ อันนี้เชฟไม่ให้ผ่านค่ะ



การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากสำหรับเรา ถึงจะเกิดอีเว้นท์ก็เถอะ



การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากสำหรับเรา ถึงจะเกิดอีเว้นท์ก็เถอะ



ติดตามทริป Day อื่นๆ ได้ที่ Link นี้ตามเลยจ้า
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 1
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 2
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 3
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 4
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 5
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 6
ทริปญี่ปุ่น 11 วัน เที่ยวฟูจิและรอบโตเกียว : Day 7


สินค้าแนะนำ
x

ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในตะกร้า