สินค้าที่เลือกมีหลายสเปค/สี/ราคา โปรดเลือกจากรายการด้านล่างแล้วคลิกปุ่ม "ใส่ตะกร้าสินค้า"

รีวิวท่องเที่ยว

รีวิวทริปใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่นคันไซ 10 วัน (เกียวโต-โกเบ-โอซาก้า)

ตั้งแต่คลิปเกาหลีเมื่อปีที่แล้ว เราก็ทิ้งท้ายไว้ว่าทริปต่อไปต้องสนุกแน่ๆแต่ยังไม่บอกว่าไปที่ไหน นั่นคือเรา รู้แล้วว่าจะเป็นญี่ปุ่นแหละ.. แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปจังหวัดไหน และทุกอย่างก็มาลงตัวเอาช่วงปลายปี 2015 คือมีวันว่างและกระปุกเต็มพอดี เลยคิดว่า ไปทำทริป ญี่ปุ่น - ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ดีกว่า และแล้วทริปนี้จึงได้เกิดขึ้นนนนนน



จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เค้าว่ากันว่า สวยสุดๆ ก็คือที่ เกียวโตแผนเที่ยวของเราเลยพุ่งตัวไปที่เกียวโตก่อนเพื่อนเลย แต่.. มาถึงญี่ปุ่นทั้งที จะเที่ยวแค่เกียวโตก็คงน่าเบื่อเกินไป

ทริปนี้เลยขออัพเกรดการเที่ยวขึ้นหน่อย ด้วยการสยายปีกพญาอินทรี ย้ายข้ามจังหวัดกันด้วย นอกจากเกียวโต เราจะข้ามไปเที่ยวโอซาก้า และโกเบกัน โดยจะนอนเกียวโต 2 คืนแรก และย้ายไปนอนโอซาก้าอีก 8 คืนที่ เหลือ



สรุป ไปเที่ยวทั้งหมด 3 จังหวัด จ.เฮียวโงะ เมืองโกเบ, เกียวโต และโอซาก้า ซึ่งทั้ง 3 จ.นี้อยู่ใน ภูมิภาคคันไซ หรือภาคตะวันตกของญี่ปุ่น เราเลยตั้งชื่อทริปนี้ว่า เที่ยวคันไซ

พวกเราไปทั้งหมด 11 วัน 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 16-26/11/2015 ด้วยงบ คนละ 79,000 บาท รวมทั้งทริป ค่าตั๋วเครื่อง บินไป-กลับ + ค่าที่พัก 10 คืน + ค่ากิน + ค่าเดินทาง + ค่าขนมของฝาก + อื่นๆ



เห็นงบแล้วอาจจะตกใจนะ ต้องบอกก่อนว่าการเที่ยวของเรา ไม่ได้ตั้งใจว่าจะประหยัดงบ เพราะเป็นการไป ถ่ายทำคลิป เราต้องวางทริปให้สะดวกสำหรับพวกเรามากที่สุด อะไรที่ทำให้สบายได้ก็จ่ายเลย อยากกิน หรืออยากซื้ออะไรก็เต็มที่ไปเลย

ดังนั้น สำหรับคนที่ไปเอง ก็สามารถออกแบบทริปและกำหนดงบให้ประหยัดกว่านี้ได้ เช่น
1. สายการบินรอสอยช่วงโปร หรือใช้สายการบิน Lowcost หรือเลือกเที่ยวช่วง Low Season อันนี้ก็ ได้ตั๋วราคาถูกได้
2. เอาสัมภาระ เสื้อผ้าไปน้อย จะได้ไม่ต้องเสียค่าโหลดกระเป๋า
3. ที่พักจองพวก Hostel ก็ได้ หรือถ้าไปกันหลายคนก็ลองเปลี่ยนเป็นจองบ้านพักจากเว็บ https://th.airbnb.com/ ก็ได้
4. การกินให้มีมื้อถูกและมื้อแพงใน 1 วัน เช่น เช้า กินร้านสะดวกซื้อ ,กลางวัน จัดร้านแพง กินให้เต็มที่ ,เย็น ซื้ออาหารจากสะดวกซื้อ หรือซุปเปอร์ญี่ปุ่นจะลดราคา 30 - 50% ช่วง 4-6 โมงเย็น

แต่ที่สำคัญไม่ใช่ว่าประหยัดจนไม่คิดถึงความเป็นจริงว่าทำได้จริงรึเปล่า จนทำให้ลำบากทั้งตัวเองและ เพื่อนร่วมทริปนะจ้ะ อันนี้เราไม่สนับสนุน เพราะถ้าประหยัดมากๆๆๆจนทำให้การเที่ยวมันเหนื่อยจนเกินไป จะทำให้เที่ยวไม่สนุกและพาลหงุดหงิดอารมณ์เสียกันไปเปล่าๆ เลยทำให้กลายเป็นทริปที่มีความทรงจำอัน แสนทรมานไปซะก็ไม่เวิร์คนะ เอาพอดีๆละกัน



สรุปค่าใช้จ่าย

Fix Cost รวมคนละ 44,499 บาท แยกเป็นค่าใช้จ่ายตามนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบิน TG (จอง 23/5/15) คนละ 23,945 บาท โหลดกระเป๋าได้คนละ 30 กก.
- ค่าที่พัก เกียวโต (จอง 6/6/15) คืนละ 5,084 ตกคนละ 2,542 x พัก 2 คืน = 5,084 บาท
- ค่าที่พัก โอซาก้า (จอง 6/6/15) คืนละ 2,700 ตกคนละ 1350 x พัก 8 คืน = 10,800 บาท
- ค่า Pocket Wifi ของ iwifi 2,194 ตกคนละ 1,097 บาท
- ค่าเข้า USJ 1 day pass + USJ Express5 Ticket คนละ 3,573 บาท

ค่าใช้จ่ายที่ญี่ปุ่น เป็นค่ากิน + ค่าเข้าสถานที่ + ค่าเดินทางระหว่างเที่ยว + ค่าของฝาก ทั้งหมด 11 วัน ตกคนละ 34,500 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งทริปคนละ = 78,999 บาท ปัดเป็นเลขกลมๆ ก็ประมาณคนละ 79,000 บาท



ตารางเที่ยว (กดที่วันที่ จะ Link ไปตารางละเอียดแต่ละวันจ้า)

Day 1 จันทร์ 16 พ.ย. 58
11.00 เครื่องออกจากสุวรรณภูมิ
18.10 ถึงสนามบิน Kansai (Terminal 1) นั่ง Haruka ลง Kyoto Station ใช้เวลา 1.20 ชม.
21.00 ถึงเกียวโต Checkin Sakura Terrace + หาของกินแถวๆนั้น

Day 2 อังคาร 17 พ.ย. 58 - เกียวโต
เช้า - วัด Ginkakuji (วัดเงิน) > Philosopher's Walk > วัดเอคันโด (Eikando Temple)
บ่าย - เช่าชุดยูกาตะที่ Okamoto Kimono สาขาGion > เดินไปตรอกฮิกาชิยามะ
เย็น - คืนชุดกิโมโน > ร้าน Motoi Sushi Gion

Day 3 พุธ 18 พ.ย. 58
เช้า - Check out Sakura Terrace ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม > Arashiyama
บ่าย - วัด Kinkakuji(วัดทอง)
ค่ำ - ทานข้าวแถวโรงแรม + รับกระเป๋า > ไปโอซาก้า checkin โรงแรม Arietta Hotel Osaka

Day 4 พฤหัส 19 พ.ย. 58
เช้า - พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว โกเบ
บ่าย - ร้านเนื้อย่างโกเบ Royal Moriya
เย็น - Kobe Haborland

Day 5 ศุกร์ 20 พ.ย. 58
เช้า - Kobe Animal Kingdom
บ่าย - เนื้อย่างโกเบร้าน Koju
เย็น - ช้อปปิ้ง Kobe Motomachi Shopping Street + Kobe China Town

Day 6 เสาร์ 21 พ.ย. 58
เช้า - ปราสาทโอซาก้า > Osaka International Peace Center
บ่าย - นัมบะ กินราเม็ง Kinguemon-คิงกุเอม่อน (ราเม็งซุปดำ)
เย็น - หอคอย Tsutenkaku > กลับมาเดินเล่นนัมบะ กินขนม + ทาโกะยากิ

Day 7 อาทิตย์ 22 พ.ย. 58
เช้า - The Instant Ramen Museum
กลางวัน - กินอาหารกลางวันร้าน Masamuneya Aiaubashi (ร้านมันปู) + ร้านซูชิ Gokai tachi sushi
บ่าย - เดิน Den Den Town
เย็น - Dotombori ซื้อขนมร้าน Don Quijote

Day 8 จันทร์ 23 พ.ย. 58 - โอ ซาก้า (วันแรงงานของญี่ปุ่น)
เช้า - ย่าน Nakazaki-cho
กลางวัน - Tempozan Market Place กินอาหารร้าน Jiyuken - จิยูเคง ข้าวคลุกแกงกะหรี่สไตล์โอ ซาก้า
บ่าย - พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไคยูคัง
เย็น - เดินเล่นห้าง Namba Park > แวะร้านหนังสือ > ทานโซบะร้าน Shinobuan ที่ห้าง Namba Park

Day 9 อังคาร 24 พ.ย. 58
Universal Osaka โอซาก้า (ทั้งวัน)

Day 10 25 พ.ย. 58
เช้า - Namba Walk ที่ Namba Station
กลางวัน - ข้าวหน้าปลาไหลในตำนาน Honke Shibato
บ่าย - ช้อปปิ้ง Namba Walk
เย็น - ซื้อขนมที่นัมบะ Don Quijote

Day 11 พฤหัส 26 พ.ย. 58
11.00 เครื่องออกจากสนามบินคันไซ
15.45 ถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ



Day 1 จันทร์ 16 พ.ย. 58 : ออกเดินทางไปสนามบินคันไซ

วันแรกเราบินกับ TG ไปขึ้นที่สุวรรณภูมิ Flight TG672 บินจากสุวรรณภูมิ 11.00 น. ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชม. ไปถึงคันไซ แอร์พอร์ตตอน 18.10 (ที่เป็นเวลานี้เพราะเค้ารวมเวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าเรา 2 ชม.เข้าไปด้วย)



ที่นั่งเป็นคราวนี้เป็นแบบ 2-4-2 พวกเราเลยได้นั่งด้วยกันหมด สำหรับขาไป ซึ่งเราเข้าใจว่าเราโดนเปลี่ยน เครื่องกะทันหันนะ เพราะตอนแรกที่จองมามันเป็นแบบ 3-3-3



อาหารบนเครื่องวันนี้ Main course เป็นสลัดมันฝรั่ง สลัดเต้าหู้ และขนมปังฟักทอง ของหวานเป็นขนม ไทยบ้านเรา แต่ที่พิเศษคือเสิร์ฟชาเขียวร้อน ก็นี่มันไฟล์ทไปญี่ปุ่นใช่มะ เลยมีชาเขียวให้ด้วย แต่เราก็ยัง ขอน้ำเปล่าเค้ามาทานด้วย เป็นทิปส์ในการขึ้นเครื่องบินเลยนะ คือ อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ จิบน้ำบ่อยๆ ระหว่างเดินทาง เพราะบนเครื่องบินมันอากาศแห้งมาก ทานน้ำบ่อยๆจะช่วยให้เราไม่เพลีย



สิ่งอวยความสะดวกบนเครื่องเหมือนเดิม มีหมอน ผ้าห่ม หูฟังดูหนังระหว่างบิน



ผ่านไป 5 ชม. ไวเหมือนโกหก เราก็มาลงที่สนามบินคันไซเป็นที่เรียบร้อย ตรงเวลาเป๊ะ จากนั้นเราก็เดิน ตามพีเพิ่ลไปเพื่อไปผ่าน ตม.



จากนั้น เราก็ไปซื้อ Pass ที่เราจะใช้ในการเที่ยวโอซาก้า เราซื้อ Pass อย่างเดียวคือ Osaka Kaiyu Ticket ราคาใบละ 2,550 เยน เพราะเรามีแผนจะไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังอยู่แล้ว แค่ค่าเข้าก็ 2,300 เยนไปแล้ว เราเลยซื้อบัตรนี้ไป เลย เพราะนอกจากเป็นบัตรเข้าไคยูคัง ยังเป็นบัตรนั่งรถไฟใต้ดินแบบ 1 day pass ด้วย แถมยังใช้เป็น ส่วนลดค่าเข้าหอคอยทสึเทงคาคุ และปราสาทโอซาก้าอีกตะหาก

พอมาถึงสนามบินให้ไปที่ Travel Desk (ติดกับ Kansai Information Center) ชั้น 1 ซื้อ Osaka Kaiyu Ticket - Osaka City version ใบละ 2,550 เยน

เข้าไปอ่านรายละเอียดบัตรกันที่นี่ได้ http://www.kaiyukan.com/language/thai/kaiyu.html



การเดินทางเข้าเมือง จากสนามบิน KIX เราเลือกนั่งรถไฟ JR Haruka ใช้เวลา 1 ชม. 18 นาที จะวิ่งไป-กลับระหว่างสนามบินคันไซ - เกียวโต โดย แวะจอดระหว่างทางแค่ 2 สถานี คือที่โอซาก้า สถานี Tennoji และ Shin-Osaka เท่านั้น เพราะเราตั้งใจว่า เราอยากเดินจาก airport เข้าเกียวโตให้เร็วที่สุด และเหนื่อยน้อยสุด



เราซื้อเป็น package ICOCA+Haruka one-way trip ราคา 3,030 เยน ** ราคานี้เป็นราคาปี 2015 สามารถอัพเดทราคากันได้ที่ Link นี้ http://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/icoca-haruka/



ในราคานี้เราจะได้

1. บัตร ICOCA (บัตรเติมเงิน) โดยมีเงินที่เราใช้ได้คือ 1,500 เยน และอีก 500 เยนเป็นค่ามัดจำบัตร ซึ่ง ราคานี้เป็นราคาปกติที่เราซื้อทั่วๆไปตามที่ขายบัตร ICOCA แหละ

2. ได้บัตรนั่ง Haruka ตกเที่ยวละ 1,030 เยนเท่านั้น ซึ่งตั๋ว Haruka ปกติราคาปกติ จากสนามบินคันไซไป เกียวโต ราคาอยู่ที่ 3,370 เยนเลยนะ แต่สำหรับบัตรนี้ เราจะนั่งได้เฉพาะตู้ที่ non reserved seat เท่านั้น ตามไปอ่านรายการนั่งรถไฟเข้าเกียวโตโดยใช้ ICOCA+Haruka ได้ที่ Link นี้นะ https://www.ilovetogo.com/shop/Blog/Detail/kansai-airport-to-kyoto-osaka-by-jr-haruka



ที่พักที่ เกียวโต 2 คืน

นอนเกียวโต เราจองโรงแรม Sakura Terrace = 2 คืน แรก เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้ Tokyo Station ห้องพัก คืนละ 5,085 บาท ทั้งหมด 2 คืน รวม 20,340 บาท อยู่ใกล้มินิมาร์ทและ MRT Kujo Station (Exit 2 จะ โผล่หน้าโรงแรมเลย)

แผนที่ โรงแรม Sakura Terrace
Map : https://goo.gl/maps/RG6qJ9uu6i72
พิกัด : 34.979785, 135.759503
ห่างจาก Family Mart 120 เมตร : https://goo.gl/maps/vBQ2qe8aLyK2

ภาพนี้ถ่ายตอนเช้าอะนะ จะได้เห็นหน้าโรงแรมชัดๆ โรงแรมคือตึกสูงๆทางขวา ส่วนข้างๆคือห้าง Joshin ขายพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า (ทำลูกศรชี้ว่าโรงแรมอยู่นี่)



Sakura Terrace เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้ Kyoto Station ที่เราเลือกแบบนี้เพราะเราจะนั่งรถไฟตรงมาจาก สนามบินคันไซ ไปยาวไปลง Kyoto Station เลย ใช้เวลา 1.30 ชม. แต่ต่อไปโรงแรมด้วยการโบกแท็กซี่ ราคาประมาณ 610 เยนก็ตกเกือบ 200 บาท แลกกับการประหยัดเวลาและแรงในการยกกระเป๋า เหมาะกับ คนกระเป๋าใหญ่ ของเยอะ หรือมากันหลายๆคน หารๆกันก็เหลือคนละไม่กี่บาท

เข้าไปเช็คอินกันก่อน เข้าไปใน Lobby โรงแรมบรรยากาศดูดีมาก



โรงแรมถือว่าใหญ่พอสมควรเลยหล่ะ ตรง Lobby เป็นที่่นั่งดริ้งค์ หรือนั่งทานอาหาร เค้าจัด space ได้ กำลังดีเลย



เหล่านี้คือเจ้ากระเป๋าทั้งหมดของเราอะนะ ให้แม่ช่วยเฝ้าไว้ก่อนระหว่างไปเช็คอิน



ไปดูห้องพักกันเถอะ เลือกเป็นห้องปลอดบุหรี่ด้วย เข้ามา ห้องกว้างและใหม่ + สะอาดมาก ไม่มีกลิ่นเหม็น กลิ่นอับใดๆเลย



ความกว้างขาดที่พอจะวางกระเป๋าและเดินสวนกันได้สบายๆเลย ซึ่งปกติโรงแรมญี่ปุ่นจะแน่นอึ๊ก เดินสวน กันไม่ได้ มีทีวี ตู้เย็น ตู้เซฟ และ free wifi ให้พร้อม



ประทับใจห้องน้ำ เพราะใหม่และสะอาดมาก ถึงจะเล็กตามสไตล์ห้องน้ำญี่ปุ่น แต่ความใหม่ขนาดนี้ถือว่าโอ เคมากนะ ชอบๆ มีอุปกรณ์ห้องน้ำให้ครบเลยนะ แชมพู สบู่ ครีมนวด ไดร์เป่าผม



ที่นี่มีออนเซ็นให้แช่ฟรีด้วยนะ แต่พวกเราไม่ได้ลอง ใครมาพักที่นี่ มีเวลามาลองแช่ด้วย แล้วมาเล่าให้ฟัง กันบ้างว่าเป็นไงนะ ตอนนี้ขอตัวไปจัดสมบัติต่างๆเตรียมไปเที่ยวเกียวโตพรุ่งนี้ก่อนหล่ะ

สินค้าแนะนำ
x

ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในตะกร้า