สินค้าที่เลือกมีหลายสเปค/สี/ราคา โปรดเลือกจากรายการด้านล่างแล้วคลิกปุ่ม "ใส่ตะกร้าสินค้า"

รีวิวท่องเที่ยว

Day 6 เสาร์ 21 พ.ย. 58 - โอซาก้า
เช้า - ปราสาทโอซาก้า > Osaka International Peace Center
บ่าย - นัมบะ กินราเม็ง Kinguemon-คิงกุเอม่อน (ราเม็งซุปดำ)
เย็น - หอคอย Tsutenkaku > กลับมาเดินเล่นนัมบะ กินขนม + ทาโกะยากิ

มาต่อกันวันที่ 6 ที่แรกที่จะไปคือแลนด์มาร์กแห่งโอซาก้า นั่นก็คือ ปราสาทโอซาก้า นั่นเอง วันนี้เป็นวันที่ เราจะใช้บัตร Kaiyu ที่ซื้อที่สนามบินมาเป็นส่วนลดเข้าปราสาทโอซาก้าและหอคอยทสึเทงคาคุ เข้าไปอ่าน รายละเอียดได้ที่ Link นี้เลย เป็นภาษาไทยด้วย http://www.kaiyukan.com/language/thai/kaiyu.html



แผนที่ ปราสาท Osaka
Map : https://goo.gl/maps/pRUJPpeoSjw
พิกัด : 34.687314, 135.526186
รายละเอียด : เปิด 9.00 - 17.00 ค่าเข้า 600 เยน เอาบัตร Kaiyu มาด้วยเพื่อใช้ลดค่าเข้าได้ด้วยนะ

ปราสาทมีทั้งหมด 8 ชั้น เราจะขึ้นลิฟท์ไปด้านบนแล้วค่อยๆเดินลงมาทีละชั้น จะได้ประหยัดแรง ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดชันๆอะนะ



ปราสาทโอซาก้า สร้างปี คศ. 1583 โดยท่านไดเมียว โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ มีต้นแบบมาจากปราสาท อะซึจิของท่านโอดะ โนบุนากะ



ท่านฮิเดโยชิ เป็นคนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นคนนึงเลย เพราะเป็นผู้สานต่อเจนตนารมณ์ ของท่านโนบุนากะในการรวมญี่ปุ่นที่แตกเป็นแคว้นต่างๆได้สำเร็จ



ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติของท่านฮิเดโยชิ และมีของโบราณมากมายตั้งแสดงไว้ เช่น ชุดเกราะ ดาบซามุไร ภาพวาด จดหมาย



ภาพวาดบนผนังที่วาดต่อกันยาวๆ เข้าใจว่าน่าจะเล่าเรื่องถึงการทำสงครามในช่วงนั้น



มีรูปวาดของบุคคลสำคัญในช่วงนั้นด้วย การบันทึกทุกอย่างก็เกิดจากการวาด การเขียนทั้งหมด



จริงๆมีเนื้อเรื่องละเอียดกว่านี้มาก ถ้ามาเที่ยวปราสาทโอซาก้าแล้วอยากอินไปกับประวัติศาสตร์ ก็อยากให้อ่านเรื่องราวของท่านฮิเดโยชิ และโนบุนากะมาก่อน เราเคยเห็นเค้าเขียนเป็นการ์ตูนด้วย ถ้าไม่ชอบอ่านหนังสือก็ลองหาการ์ตูนอ่านดู



ไปแวะที่ต่อไปกัน ก็คือ

แผนที่ Osaka International Peace Center
Map : https://goo.gl/maps/FqURWQBpsG92
พิกัด : 34.681924, 135.529727
รายละเอียด : เปิด 9.30 - 17.00 ค่าเข้า 250 เยน

เป็นศูนย์สันติภาพนานาชาติโอซาก้า อยู่ใกล้กับปราสาทโอซาก้านิดเดียวเอง เป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมประวัติเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง



พอเราเดินเข้าไปนึกว่าปิด เพราะเงียบมากกก ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวมาเลย เห็นแต่คนญี่ปุ่นมามากกว่า มันก็ ไม่ใช่สถานที่ยอดฮิตที่ต้องมาเที่ยวหรอก แต่เราก็อยากมาดูประวัติศาสตร์ของที่นี่ว่าเค้าสื่อไว้ว่ายังไงบ้าง



หลักๆก็จะเล่าประวัติศาสตร์ว่าญี่ปุ่นโดนบอมบ์ตรงจุดไหน และพูดถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโอซาก้า ระหว่างสงคราม และการเตรียมตัวรับการโจมตีทางอากาศของอเมริกา ที่โอซาก้าโดนถล่ม เพราะโอซาก้า เป็นแหล่งผลิตยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ มีคนตายเป็นหมื่น



สภาพของโอซาก้า หลังโดนบอมบ์ มันน่ากลัวมากอ่ะเราว่า



สภาพหลุมหลบการทิ้งระเบิดในสมัยนั้น



เด็กๆในตอนนั้นก็วาดรูปเหตุการณ์ทิ้งระเบิดไว้ สื่อออกมาแบบซื่อๆผ่านภาพวาดง่ายๆแบบเด็ก แต่เรื่องราวในภาพนี่สิดูแล้วมันเจ็บปวดจริงๆ



นี่คือระเบิดที่อเมริกาทิ้งใส่ญี่ปุ่น เป็นระเบิดใหญ่ที่เมื่อทิ้งออกมาแล้วจะกลายเป็นลูกเล็กๆ เพื่อให้ทำลายได้พื้นที่กว้างมากขึ้น



สุดท้ายแล้วเค้าก็สรุปว่า การทำลายกันเกิดแต่ความสูญเสียกันทั้ง 2 ฝ่าย การที่มีพิพิธภัณฑ์นี้ขึ้นเพื่อเป็น เครื่องเตือนใจให้คนได้เรียนรู้ และสร้างสันติภาพกันต่อไป มากกว่าการก่อสงคราม



กว่าจะดูกันจบก็บ่ายแก่มากกกก สิ่งที่อยากจะพุ่งใส่ตอนนี้คือ อาหารๆๆๆ จะพาไปชิมราเม็งซุปดำ ที่นัมบะกัน

แผนที่ ร้านราเม็งซุปดำ Kinguemon (คิงกุเอม่ง)
Map : https://goo.gl/maps/hkpMS8A4sUw
พิกัด : 34.6685242,135.5031408
รายละเอียด : เป็นราเมงที่อยู่ในโดทมโบริ เปิด 11.00 - 8.00 (เปิดข้ามคืน)



ใช้น้ำซุปแบบโชยุ หรือซอสถั่วเหลืองเลือกเส้นหนา เส้นบางได้ เมนูขึ้นชื่อของร้าน คือ Kuro Shoyu Ramen เป็นราเมงซุปสีเข้ม มีซีอิ๊วดำ และกุ้ง เป็นราเมงที่ได้รับรางวัล อีกอันคือ Osaka Black เป็นราเมงซุปดำที่รสเข้มข้นมากๆๆๆ แต่สิ่งที่เราสั่งน่าจะเป็นเบอร์ 4 Osaka Black และ 5 คือ Naniwa Black



พี่ฉิมนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รอซู้ดเส้นราเม็ง



Osaka Black เพิ่มหมูชาชูและหน่อไม้ เราเลือกเป็นแบบเส้นแบน น้ำเค็มและขมนิดๆ มีกลิ่นซีอิ้วเยอะ เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี หมูชาชูอย่างนิ่มและหอมมากๆๆ ไข่เป็นแบบยางมะตูม



Naniwa Black อันนี้เราเลือกเป็นแบบเส้นกลม เราต้องคนไอ้น้ำดำๆให้มันทั่วก่อนทานนะ ไม่งั้นน้ำมันจะจืด น้ำซุปกลมกล่อมไม่ค่อยเค็มมาก ถ้าเป็นโอซาก้าแบลคเข้มข้นกว่าหน่อยนึง เส้นกลมนี่เหนียวนุ่มเหมือนกัน แต่เราชอบเส้นแบนมากกว่า



ตอนนี้ท้องเต็มไปด้วยบะหมี่ มีความสุขมากเพราะได้กินของอร่อย จุดหมายต่อไปของเราคือ หอคอยทสึ เทงคาคุ

แผนที่ หอคอย Tsutenkaku (ทสึเทงคาขุ)
Map : https://goo.gl/maps/SeBrQW1hcTF2
พิกัด : 34.652552, 135.506308
รายละเอียด : ค่าเข้า 600 เยน เปิด 9.00 - 20.30 น.

สร้างเมื่อ คศ. 1912 เป็นสัญลักษณ์แห่งชิเซไก บอกถึง ความเจริญของโอซาก้าในสมัยก่อน หอคอยทสึเทงคาคุมีต้นแบบมาจากหอไอเฟล เลยมีอีกฉายานึงว่า "หอไอเฟลแห่งนานิวะ"



พอเราลง MRT ก็เดินตามถนนยาวๆมาเรื่อยๆจะเจอหอคอยเด่นมาก สำหรับคนที่จะขึ้นชมวิว ให้เดินตรงไป ที่หอคอยเลย



เราต้องไปซื้อตั๋วก่อน ให้เดินเข้ามาใต้หอคอยจะเห็นลิฟท์ ให้ลงไปชั้น B1



ไปถึงชั้น B1 แล้ว พวกเราก็เดินไปดูคิว เค้าแจ้งในจอว่าต้องขึ้นไปรอที่ชั้น2 อีก 40 นาทีถึงจะได้ขึ้นหอ เรา เลยขอเปลี่ยนแผนเป็นการช้อปปิ้งขนมกูลิโกะ ที่ร้าน Glico Ya ชั้น B1 นี่แทนละกัน เพราะเราขี้เกียจรอ



กูลิโกะ กูลิโกะ เยอะมากๆๆๆ



ได้ขนมกูลิโกะมาเพียบอ่ะ ไปที่ไหน ช้อปที่นั่นจริงๆ ไม่ใช่กระเป๋าแบรนด์เนมนะ แต่เป็นขนมแบรนด์เนม



มีอีกหลายร้านเลยนะ ทั้งนิชชิน และร้านขนมอื่นๆ มาเดินเล่นกันได้



จากนั้น พวกเราก็เดินออกไปเก็บภาพ Twilight หอคอยทสึเทงคาคุกันด้านนอก

แผนที่ จุดถ่ายรูปหอคอย Tsutenkaku ช่วง Twilight
Map : https://goo.gl/maps/5guwN5stYjr
พิกัด : 34.6511295,135.5057932



ช่วงหกโมงกว่าๆ ถึงหนึ่งทุ่ม แถวนี้ได้ฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ตัดกับสีสันของไฟจากร้านอาหาร



เรารู้สึกว่า การตกแต่งร้านแถบคันไซ โดยเฉพาะที่นัมบะและที่แถวทสึเทงคาขุ มันออกแนวญี่ปุ่นแบบลูกทุ่งๆนะ



ทุกอย่างดูมีสีสันโป๊งโป๊งชึ่ง



ป้ายต่างๆ ดึงดูดสายตาจริงๆ อย่างร้าน "ดารุมะ" ขายคุชิคัตซึเป็นพวกของทอดเสียบไม้ แล้วราดน้ำจิ้ม ร้านนี้ก็ดังนะใครมาแถวนี้มาลองกินได้ แต่ถ้าไม่ได้มาไปชิมได้ที่ทองหล่อนะจ้ะ



ดูนาฬิกาแล้ว นี่แค่ทุ่มเดียวเองอ่ะ เรายังเที่ยวต่อได้อีกนิ แถมพื้นที่ในกระเพาะก็ยังว่างๆ เลยไปหาขนมกิน กันที่นัมบะดีกว่า

แผนที่ ร้านชีสทาร์ต PABLO
Map : https://goo.gl/maps/Vdxw48bErZm
พิกัด : 34.669521, 135.501536

เป็นร้านชีสทาร์ตที่เป็นที่นิยมของทั้งคนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวด้วย เมนูของร้านที่ควรจะสั่งคือ Premium Cheese Tart เค้าทำสดๆ ทุกวันแต่ก็ทำแบบจำกัดจำนวน



มีให้ซื้อเป็นกล่องๆด้วยนะ เราว่าถ้าซื้อไปเป็นของฝากก็ไม่เลว ถือเป็นชีสเค้กชื่อดังจากญี่ปุ่น แต่ลองเช็ค ก่อนก็ดีว่ามันไปเปิดสาขาที่ไทยรึยังอะนะ



เมนูของเค้า มีทั้งแบบเป็นชีสเค้กธรรมดาไม่ปรุงอะไรเลย และมีแบบช็อคโกแลต ชาเขียวและอื่นๆ พวกเรา สั่งมา 2 แบบ คือ Cheese Tart รสช็อคโกแลต และแบบ Plain



ขึ้นไปนั่งข้างบน ที่นั่งนั่งสบายมากกกกก แม่เลยได้นั่งพักขาด้วยหลังจากที่เดินต่อเนื่องยาวนานมาหลายๆ ชม.



รอสักพักเค้าก็มาเสิร์ฟ เริ่มที่ทาร์ตช็อคโกแลตก่อน รสชาติช็อคโกแลตมันเข้มๆมันๆ ทานกับทาร์ตเนื้อ กรอบๆและกล้วยเข้ากันดี รสชาติมันไม่ได้หวานแหลมอะไรงี้เลยนะ



ส่วนแบบ Original กลิ่นชีสไม่แรง ไม่หวานเลย น่าจะได้ความหวานจากไอติมมากกว่า ต้องกินกะไอติมก็จะ เข้ากันมากกก



สรุปชอบทั้ง 2 รส เรียกว่าไม่ใช่ชีสเค้กแบบกลิ่นชีสออกชัดเจนแบบร้านคันนอนยะที่โกเบ อะนะ ใครไม่ ชอบกลิ่นชีสแรงๆก็มาทานที่นี่ได้



ยังๆ พวกเรายังไม่อิ่ม พี่ฉิมเกิดอยากจะกินทาโกะยากิขึ้นมา เลยพาไปกินที่ร้านคุคุรุ อยู่ที่นัมบะเหมือนกันนี่ หล่ะ เดินต่อจากร้าน Pablo ไปไม่ไกล

แผนที่ ร้าน Takoyaki Kukuru (คุคุรุ)
Map : https://goo.gl/maps/BDMLdavkVx22
พิกัด : 34.668744, 135.502157
รายละเอียด : เปิดทุกวัน 12.00 – 23.00 น.

หาไม่ยากเลย เป็นรูปปลาหมึกยักษ์ถือตะหลิวนี่แหละ



8 ลูก 650 เยน และแบบ 12 ลูก คิวยาวเหยียดเลยหล่ะและเห็นคนไทยมาต่อแถวกันเยอะเหมือนกัน



ที่ร้านคุคุรุจะทำทาโกะสไตล์โอซาก้าซึ่งจะออกนิ่มๆนะ ลองชิมแล้วพี่ฉิมบอกว่าเป็นทาโกะแบบเนื้อนิ่ม บอก ตรงๆว่าชอบแบบกรอบนอกนุ่มในมากกว่า ถ้าที่เคยกินที่โตเกียวและที่ไทยก็คือร้านกินดาโกะ อันนี้จะ กรอบนอกนุ่มใน แต่ถ้าใครชอบสไตล์นิ่มก็ต้องที่โอซาก้าเลยนะจ้ะ เป็นอันว่าจบ Day 6 ไปพร้อมกับความอิ่มระดับเทพ ไปเจอกันพรุ่งนี้ Day 7 จ้า



สินค้าแนะนำ
x

ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในตะกร้า