สินค้าที่เลือกมีหลายสเปค/สี/ราคา โปรดเลือกจากรายการด้านล่างแล้วคลิกปุ่ม "ใส่ตะกร้าสินค้า"

รีวิวเลนส์ FIX Canon EF 50MM F/1.8 II

สินค้า
สถานะสินค้า
ราคา
จำนวน
สินค้าหมดชั่วคราว
* สินค้าที่มีสถานะ "รอยืนยัน" เป็นสินค้าที่ต้องเช็คสต็อคก่อน สามารถสั่งซื้อได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่จะตอบกลับใน 1 วันทำการ
รายละเอียดเพิ่มเติม
ใช้เลนส์ FIX Canon EF 50MM F/1.8 II

สำหรับมือใหม่ เลนส์ตัวถัดไปที่น่าสนใจจะเป็นเลนส์ตัวไหนดี ??

แน่นอน ต้องราคาไม่แพง และคุ้มค่าที่จะลอง นั่นคือเลนส์ Fix 50 mm. F1.8 นั่นเอง สำหรับชาว Nikon ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะของ Nik เองก็มี 50 mm. F1.8G ซึ่งประสิทธิภาพอาจจะสูงกว่าของ Canon ตัวนี้ด้วยซ้ำ (แต่ราคาก็สูงตามอะค่ะ)



มาดูข้อดีข้อเสียในเชิงตัวเลนส์กันก่อน

1. คุณภาพวัสดุ (Build Quality)

ทำจากพลาสติกทั้งหมดยกเว้นกระจกเลนส์
ข้อเสีย : ไม่ค่อยทนทาน ถ้าตกอาจจะแตกร้าวได้ง่าย
ข้อดี : น้ำหนักเบามาก หนักแค่ 130 กรัมเอง



ขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา

ตอนนี้ถือว่าเป็นเลนส์ที่เล็กที่สุด และสั้นที่สุดของ Canon เลยล่ะ



ไม่มี Distance Scale

distance scale นี่มันคืออะไร??

มันก็คือสเกลที่บอกระยะชัดระหว่างแบบกับเลนส์ เช่น ถ้าเรารู้ว่าแบบที่เราต้องการอยู่ห่างไปกี่เมตร ก็ปรับ distance scale ให้เท่ากับระยะห่าง แค่นี้ก็ชัดแล้วค่ะ

ซึ่งเลนส์ 50 mm. F1.8 ตัวนี้ไม่มี แต่ถามว่าเป็นปัญหาไหม? ตอบว่า ไม่

อาจจะตั้งคำถามใหม่ว่า "เกิดมาเคยใช้ไหม?" ตอบตรงๆ "ไม่เคยค่ะ" ^_^''



เวลาใช้ Auto Focus แล้วเสียงมอเตอร์โฟกัสจะดังมาก ดังครืดๆ

เป็นปัญหาไหม อาจจะเป็น ถ้าอยู่ในที่เงียบๆ มันจะได้ยินพอสมควร แม้ว่าเราปิดเสียง "ตี่ติ๊ด" แล้วก็ตามที

พลิกวิกฤติเป็นโอกาส มองโลกในเง่ดี : ถ้ามันเงียบก็หมายความว่ามันโฟกัสได้แล้ว!



ระยะโฟกัสสั้นสุดไม่ค่อยสั้น

เลนส์ 50 mm. F1.8 ระยะโฟกัสสั้นสุดคือ 0.45 เมตร เวลาอยู่ในที่แคบๆ ขยับตัวลำบากเช่น ถ่ายอาหารบนโต๊ะอาหาร ก็ถือว่าอึดอัดเหมือนกัน เพราะต้องถอยออกไปห่างพอสมควร ในขณะที่ถ้าใช้เลนส์ kit 18-55 จะมีระยะโฟกัสสั้นสุดแค่ 0.25 เมตร เวลาอยู่ในที่แคบๆจะไม่ค่อยอึดอัดค่ะ

อย่างในภาพ ระยะประมาณนี้โฟกัสได้



แต่ถ้าเข้าไปใกล้ๆแบบนี้ โฟกัสไม่ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเลนส์ kit 15-55 ระยะนี้โฟกัสได้เลยค่ะ



Bokeh!

หน้าตาโบเก้เป็นอย่างไร?
ที่ F1.8 จะได้โบเก้กลมๆแบบนี้



แต่พอเป็น F2.8 โบเก้จะกลายสภาพเป็น 5 เหลี่ยมแบบนี้



และที่ F4 โบเก้ 5 เหลี่ยมจะขนาดเล็กลง กลายเป็น 5 เหลี่ยมขนาดเล็ก



เปรียบเทียบกันเห็นๆ ใครชอบโบเก้แบบไหน ก็เลือกปรับค่า F กันแล้วกันนะคะ



ทดสอบเหลื่อมสี

เลนส์ 50 mm. F1.8 มีอาการเหลื่อมสีพอสมควร



ประมาณนี้ แต่อาการพวกนี้ก็สามารถถูกลดได้ด้วย Software ทั้ง Software ที่อยู่ในตัวกล้องและ Camera RAW ก็สามารถลดอาการเหล่านี้ได้



ข้อดีของการเป็นเลนส์ FIX (ซูมไม่ได้)

การที่เราซูมไม่ได้ ทำให้เราต้องซูมมันด้วยเท้า หรือพูดง่ายๆ เดินเข้าหาแบบเอาเอง
การที่เราได้เดินเข้าหาแบบ ทำให้เราได้เห็นมุมใหม่ๆ อาจจะเป็นมุมที่เราไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลยก็ได้ค่ะ

ถ้าเรามีเลนส์ซูม เราอาจจะใช้ความสามารถในการซูมได้จนเสียนิสัย และอาจจะลืมไปว่า การซูมมันเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้เราสามารถถ่ายภาพในที่ที่เราเข้าไปไม่ได้ ไม่ใช่เกิดมาเพื่อยืนเฉยๆ แล้วถ่ายได้สะดวกๆ



ทีนี้มาดูกันว่า เลนส์ 50 mm. F1.8 เหมาะกับการถ่ายภาพแบบไหนบ้าง หรือพูดง่ายๆว่า คนส่วนใหญ่เค้าซื้อเจ้านี่มาเพื่อถ่ายอะไรกันหนอ?

ตอบว่า ร้อยละร้อยเลยก็ว่าได้ เค้าเอามาถ่าย Portrait กัน เพื่อใช้ความเป็นรูรับแสงกว้าง จะได้ละลายหลังกระจายไงหละ (ถูกใจหนุ่มๆ)

ทีนี้เวลาได้มา เราก็ต้องเปิดกว้างสุดถูกปะ เปิด F1.8 ไปเลย จะได้ละลายได้สะใจ (หลังจากอัดอั้นจากเลนส์ kit 18-55 มานานว่าละลายไม่ค่อยสะใจซักเท่าไร)

คือถ้าเอามาถ่ายคนแบบเต็มตัว มันก็ดูสวยดีนะคะ ละลายหลังได้ดีทีเดียว กำลังสวยเลยหละ



ลองซูมดูความสามารถในการทำละลายและโบเก้ดูสิ ถือว่าใช้ได้นะ



ถ่ายเต็มตัวแบบนั่งก็ได้ ระยะหลังละลายแบบเกิดมิติอย่างมาก



ลองซูมดู background ละลายเละพอสมควรเลย



หรือนั่งแบบเต็มตัวแบนี้ก็ได้ backgound ก็ละลายได้สะใจ เกิดมิติที่สวยงาม



ซูมดู



แต่ถ้าเปิด F1.8 มาถ่ายคนครึ่งตัวหละ?

สังเกตุดีๆ ตาขวาโดนทำละลายไปเลยเห็นไหม คือละลายได้ดีมันก็ดีแหละ แต่ละลายแบบนี้ไม่ work มันละลายหน้าแบบอีกซีกไปด้วยเนี่ย มันละลายมากไป



ซูมให้เห็นกันจะๆว่าละลายประมาณไหน



เลยหันมาเปิด F3.5 แทน เพื่อเก็บตาอีกข้าง แต่หลังยังเบอลสะใจระดับนึง อาจจะไม่เท่า 1.8 แต่ก็รู้สึกได้ว่าแบบดูโดดเด่นออกมาแล้วค่ะ



ซูมดู ตาอีกข้างก็ไม่ได้ถูกทำละลายมากนัก

ดังนั้น ถ้าได้เลนส์ตัวนี้มาก็อย่างเพิ่งเริงร่า เปิดแต่ F1.8 อย่างเดียวหละ จะถ่ายอะไรต้องคำนึงถึงการสื่อความหมายด้วยนะ อย่าให้ความเบลอมาทำให้ภาพเราสูญเสียการสื่อความหมายอย่างที่มันควรจะเป็น



อีกอย่างนึงที่สามารถใช้ประโยชน์จากความที่มันเป็นเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างคือ การถ่าย Twilight Landscape โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง

อย่างภาพ set ข้างล่างนี้ ถ่ายด้วยโหมด M โดยปรับ F1.8 และ Speed Shutter 1/50 ค้างไว้เลย แล้วดัน ISO เอา โดยดูเอาเองว่าภาพสว่างพอหรือไม่ ไปถ่ายตั้งแต่ประมาณตี 5:45 ถึง 6 โมงเช้ากว่าๆ



เวลาถ่ายก็ค่อยๆลด ISO ลงถ้าเห็นว่าภาพมันสว่างมากไป



อาจจะสงสัยว่าเปิดรูรับแสงกว้างๆแบบนี้ถ่าย Landscape ที่ต้องการความชัดลึกได้เหรอ จะสื่อความหมายผิดหรือป่าว?



อย่าลืมว่า Landscape แบบนี้ เราโฟกัสไปที่ตัวตึกซึ่งห่างจากกล้องพอสมควร มันก็เลยทำให้ระยะใกล้ๆตึกดูชัดพอๆกัน ทั้งที่ถ่ายด้วยรูรับแสง F1.8 ค่ะ



ภาพนี้ก็ลองถ่ายอย่างอื่นดูบ้าง ถ่ายเงาสะท้อนน้ำแต่ยังเห็นท้องฟ้าที่เป็น Twilight อยู่



ถ้าถามว่าซื้อกล้องมา มีเลนส์ kit 18-55 IS แล้วจะซื้อ 50mm F1.8 อีกดีหรือป่าว?

หรือขาย 18-55 แล้วใช้ 50 F1.8 ไปเลยตัวเดียวจะดีกว่าหรือป่าว?

ขอตอบว่า เลนส์ทั้ง 2 ตัวนี้เกิดมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกันพอสมควร

เลนส์ Kit 18-55 สามารถซูมได้ มีระยะโฟกัสสั้นสุด สั้นกว่า 50F1.8 เหมาะสำหรับใช้งานแบบกะเอาภาพ คือได้ภาพแน่นอน

เลนส์ 50mm F1.8 ไม่สามารถซูมได้ ต้องซูมด้วยเท้า มีระยะโฟกัสสั้นสุด 0.45 เมตร แต่รูรับแสงกว้างมาก เหมาะสำหรับการดีไซน์ภาพ คือเน้นได้ภาพสวย แต่ต้องสีเวลา

ดังนั้น ถ้าเราคิดว่าเราน่าจะเจอสถานะการณ์แบบทั้ง 2 อย่าง คือ บางทีรีบ บางทีชิลๆ เราก็น่าจะมีเลนส์ทั้ง 2 ตัวเก็บเอาไว้ใช้ในแต่ละสถานะการณ์ค่ะ



สินค้าแนะนำ
x

ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในตะกร้า